
การตั้งค่า macd
« ช่วยเหลือผู้ซื้อขาย
2. Bullish Divegence จะเกิดขึ้นเมื่อ MACD มีการปรับตัวสูงขึ้นสวนทางกับการลดลงของดัชนีราคา เป็นการบอกว่าการลดลงของราคาหุ้นใกล้สิ้นสุด
การตั้งค่า macd
วิดีโอ การตั้งค่า macd
วิธีการเพิ่มเครืองมือMACD Forexอ่านเกี่ยวกับ การตั้งค่า macd
กลยุทธ์นี้ค่อนข้างใช้งานง่าย และสามารถประสบความสำเร็จโดยนักลงทุนหน้าใหม่เช่นเดียว กับนักลงทุนที่มีอยู่แล้วให้สะดวกสบายกับการซื้อขาย Forex
ประโยชน์ของมันรวมถึง:
ตัวอย่างเช่น ลองพิจารณาตัวเลือกการซื้อขาย กราฟชั่วโมง (H1) สำหรับคู่ EURUSD
ตำแหน่งขายเปิด (จุด А) เมื่อ ต่อไปนี้ชุดของแท่งเชิงเทียนแนวตั้ง วาด โดย Heiken Ashi ตัวบ่งชี้มีที่เชิงเทียนแท่งแรก ในเวลาเดียวกัน MACD ควรชี้ลง
หมายเหตุ: เราช่วยคุณยืนยันการตรวจสอบค่าของตัวบ่งชี้เดียวกันบนระยะเวลาสั้นๆ เช่น M5 และการเปิดตำแหน่งเฉพาะเมื่อพวกเขาชี้ไปที่ขาย
ตำแหน่งปิด (จุด B) เมื่อแท่งเทียนแรก Heiken Ashi และ เมื่อ MACD ยังยืนยันการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม
การเปลี่ยนแปลงในทิศทางของเงาของเทียนแนวนอนหรือตั้ง (เส้นสีดำในรูปนี้) สามารถใช้เป็นการยืนยันเพิ่มเติมสำหรับการปิดการสั่งซื้อ
เป็นที่ชัดเจนว่า ตำแหน่งซื้อถูกเปิด และปิด (จุด C และ จุด D) ในลักษณะคล้ายกัน เมื่อคุณได้รับสัญญาณแนวตั้งของตัวบ่งชี้
กลยุทธ์นี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนระหว่างวัน
« ช่วยเหลือผู้ซื้อขาย
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การตั้งค่า macd
การตั้งค่า macd
วิธีการเพิ่มเครืองมือMACD Forexวิดีโอ การตั้งค่า macd
กลยุทธ์นี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนระหว่างวัน
1. Bearish divergence จะเกิดขึ้นเมื่อ MACD มีการปรับตัวลงสวนทางกับการสูงขึ้นของดัชนีราคา เป็นการเตือนว่าราคาหุ้นอาจมีการปรับตัวลง
MACD ( Moving Average Convergence / Divergence ) คือเส้นของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของราคา 2 เส้น
สร้างขึ้นโดยใช้ความต่างระหว่างเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 2 เส้น โดยที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เส้นหนึ่ง ใช้ระยะเวลาในการคำนวณยาวกว่าเส้นค่าเฉลี่ยฯ อีกเส้นหนึ่ง และเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 2 เส้นนี้ นิยมใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบ EXPONENTIAL ส่วนจำนวนวันที่นำมาหาค่าเฉลี่ย ก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่ที่นิยมใช้กันทั่วไปคือ 12 วัน และ 25 (หรือ 26 วัน) มีข้อสังเกตว่า เส้นค่าเฉลี่ยระยะยาวนี้ จะมีระยะเวลายาวนาน กว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นประมาณ 1 เท่า Signal Line หรือ MACD Signal คือ เส้น EMA 9 วัน ซึ่งจะถูกวางไว้ใช้คู่กันกับเส้น MACD เพื่อหาสัญญานเข้าซื้อขาย
สูตรคำนวณ MACD MACD Line = EMA(12) – EMA(26) Signal Line = EMA(9)
สามารถใช้ MACD ที่ระดับ 0 เป็นตัวบ่งบอก trend ได้เช่นกัน ถ้า MACD > 0 คือเป็นขาขึ้น, MACD < 0 เป็นขาลง จากสูตรคำนวณแสดงให้เห็นว่า ถ้า EMA12 ตัด EMA26 นั่นหมายถึง MACD จะเท่ากับ 0 พอดี แต่ถ้า EMA12 < EMA26 นั่นคือ MACD จะอยู่ต่ำกว่า 0 และถ้า EMA12 > EMA26 MACD จะอยู่เหนือเส้น 0
หลักการวิเคราะห์1. ถ้า MACD > 0 หมายถึงเป็นแนวโน้มขาขึ้น 2. ถ้า MACD < 0 หมายถึงเป็นแนวโน้มขาลง 3. ถ้า MACD > 0 และตัด Signal ลงมา หมายถึงราคาอาจพักฐานชั่วคราว 4. ถ้า MACD < 0 และตัด Signal ขึ้นไป หมายถึงราคาอาจจะขึ้น ชั่วคราว 5. ถ้า MACD ตัด 0 ขึ้นไป เป็นสัญญาณซื้อ 6. ถ้า MACD ตัด 0 ลงมา เป็นสัญญาณขาย
การใช้เครื่องมือ MACD เพียงอย่างเดียว มักจะทำให้ผู้ลงทุนไม่ได้กำไรสูงสุด ดังนั้น จึงควรนำหลักการของ DIVERGENCE มาประกอบการตัดสินใจ
การขัดแย้งกันของ MACD กับดัชนีราคา หรือเรียกว่า DIVERGENCE
DIVERENCE คือ การขัดแย้งกันของ MACD กับราคาหุ้นมี 2 ลักษณะคือ
1. Bearish divergence จะเกิดขึ้นเมื่อ MACD มีการปรับตัวลงสวนทางกับการสูงขึ้นของดัชนีราคา เป็นการเตือนว่าราคาหุ้นอาจมีการปรับตัวลง
2. Bullish Divegence จะเกิดขึ้นเมื่อ MACD มีการปรับตัวสูงขึ้นสวนทางกับการลดลงของดัชนีราคา เป็นการบอกว่าการลดลงของราคาหุ้นใกล้สิ้นสุด